Categories
ประวัตินักสนุกเกอร์

นักสนุกจิมมี่ไวต์ กว่าที่จะก้าวขึ้นมามีชื่อเสียงอย่างยิ่งใหญ่ เขาจะต้องผ่านอะไรมาบ้าง?

นักสนุกจิมมี่ไวต์ กับเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ที่ชายคนนี้ต้องฟันฝ่าอุปสรรคจนได้มายืนอยู่ในแถวหน้า ของวงการสนุกเกอร์โลก

นักสนุกจิมมี่ไวต์ เขาคือชายผู้ที่เป็น นักสนุกเกอร์อาชีพระดับโลก ที่มีชื่อเสียงของ ประวัตินักสนุ๊กเกอร์ ที่โด่งดังมากที่สุด คนหนึ่งในยุค 90 ซึ่งถ้าหากว่าคุณเป็น เป็นแฟนพันธุ์แท้ในกีฬา snooker รับรองได้ว่า ก็คงจะไม่มีใคร ที่ไม่รู้จักเขาอย่างแน่นอน ก็ด้วยลีลาการสอยคิว ที่ใครก็ประทับใจนั่นเอง

เขาเป็นนักสนุกเกอร์อาชีพ ที่ชื่อถูกเอามาตั้งเป็น ฉายา นักสนุกเกอร์ไทย ที่มีทักษะการแท้งลูกสนุก ด้วยมือข้างซ้ายได้อย่างดีเยี่ยม คนหนึ่งของโลก

จนกลุ่มแฟนการ แข่งขัน สนุกเกอร์ ชาวไทยจำนวนมาก ต่างให้ ฉายา กับเขาว่า ” สิงห์อีซ้าย ” อีกทั้งยังมีลีลา การเล่นที่มุทะลุดุดัน จนเป็นที่ติดอกติดใจ ของกองเชียร์ทั่วโลก โดยเฉพาะแฟนชาวไทย

ส่วนในเรื่องของความแม่นยำ บอกเลยว่าหายห่วง เพราะในช่วงที่เขายืนอยู่ ในจุดสูงสุดของอาชีพ การเป็นนักสนุกแบบ จัด ทำ นักสนุกเกอร์ สถิติการทำแต้มของเขา ก็ถูกจัดอยู่ในระดับ แถวหน้าของวงการ

ยากที่จะหาคู่ปรับ ที่มีความสมน้ำสมเนื้อกันได้ มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่เขาเป็นนักสนุกเกอร์ ที่มีแฟนคลับอย่างมากมาย ในยุคที่กำลังรุ่งเรือง

โดยนักสนุกเกอร์ ที่มีผลงานยอดเยี่ยม ในยุคเดียวกันกับ นักสนุกจิมมี่ไวต์ ก็จะมีตั้งแต่ รอนนี่ โอซุลลิแวน , จัดด์ ทรัมป์ ซึ่งนักสนุกเกอร์ ระดับคิวเทพเหล่านี้ ถ้าหากได้มี การเข้าร่วมในรายการแข่งขันที่ไหน ก็มักจะมีแฟนตัวยง ของกีฬาประเภทนี้ ที่ตามไปลุ้นไปเชียร์ ให้กำลังใจกับพวกเขา อย่างล้นหลามอยู่เสมอ ในแบบซูปเปอร์สตาร์ ของวงการเลย

นักสนุกจิมมี่ไวต์

และในตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็ยังคงมี นักสนุกแชมป์โลก ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่จำนวนมาก ที่ต่างยกให้ นักสนุกจิมมี่ไวต์ เป็นครูบาอาจารย์ เป็นต้นแบบแรงบันดาลใจในเรื่อง สนุกเกอร์ 147 แต้ม ของ นักสนุกเกอร์ มือ 1 ของ ประเทศไทย ที่ไม่ว่าใครก็อยากจะเดินตามรอย แนวทางของเขานั่นเอง

นักสนุกจิมมี่ไวต์ เขาเป็นนักสนุกเกอร์อาชีพ ที่ได้รับฉายาว่า ราชาไร้บัลลังก์ ไปได้อย่างไร?

นักสนุกเกอร์ฝีมือระดับพระกาฬ อีกคนหนึ่งนั่นก็คือ ” จัดด์ ทรัมป์ ” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเขาก็ไม่ได้เป็น นัก สนุกเกอร์ ใส่ แว่น ที่ร่วมอยู่ในยุคเดียวกัน ก็ถือได้ว่าเป็นนักสนุกเกอร์ ที่มีสไตล์การแทง คล้ายคลึงกันกับ นักสนุกจิมมี่ไวต์ อย่างแทบจะไม่มีผิดเพี้ยน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องเทคนิคของ การแทงลูกขาวแบบ สนุกเกอร์ อาชีพ ให้วิ่งรอบโต๊ะ ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก

หรือแม้แต่กระทั่ง การแทงลูกแบบ ” Power shot ” ไม่มีความรุนแรง ให้ความรู้สึกสะใจกับ ผู้ชมรอบโต๊ะเป็นอย่างมาก และการที่เขาเป็นนักสนุกเกอร์ ที่มีลีลาการแทงคล้ายกันกับ Alex Higgins ประวัติ ที่เป็นนักสนุกเกอร์ ที่แทงได้อย่างสนุกสนาน ซึ่งสามารถเอนเตอร์เทนคนดู ได้เป็นอย่างดี เขาจึงเป็นผู้ที่มีผลงาน ในการแข่งขันที่น่าชื่นชม กันอยู่บ่อยครั้ง โดยสถิติตำแหน่งแชมป์ ที่เขาสามารถคว้ามาครองได้ ก็มีมากถึง 23 รายการด้วยกัน 

โดยเหล่าบรรดา ตำแหน่งแชมป์ที่เขาได้รับ ก็มีรายการแข่งขันขนาดใหญ่อย่าง UK Championship ปี 1992 และรายการก่อนหน้านั้น นั่นก็คือรายการ The Master 1984 โดยสามารถที่จะพูดได้อย่างเต็มปากว่าในช่วงเวลาของปลายยุค 80 ไปถึงในช่วงของยุค 90 นั่นคือช่วงเวลาที่เขามีฟอร์ม การเล่นที่ร้อนแรง อยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพ นักสนุกเกอร์เลยก็ว่าได้

และถึงแม้ว่าเขาจะเป็น นักสนุกเกอร์อาชีพ ที่สามารถกวาดรางวัล ในรายการแข่งขัน ที่มีชื่อเสียงต่างๆ มาครองได้อย่างมากมาย แต่ในศึกการแข่งขันระดับชิงแชมป์โลก ซึ่งถือว่าเป็นเป้าหมายสูงสุด ของนักสนุกเกอร์ทุกคน เขากลับไม่มีโอกาส ได้สัมผัสความรู้สึก ในรางวัลตำแหน่งแชมป์โลก เลยสักครั้งเดียว โดยสิ่งที่เขาสามารถทำได้ก็เพียงแค่ การขยับเข้าไปใกล้มันเพียงเท่านั้น

แต้ม สูงสุด สนุกเกอร์

และระยะใกล้ที่สุด ที่เขาสามารถทำได้ นั่นก็คือการผ่านเข้าไปสู่ ในรอบชิงชนะเลิศ การแข่งขันชิงแชมป์โลกถึง 6 ครั้งด้วยกัน ซึ่งครั้งแรกนั้น มันได้เกิดขึ้นในปี 1884 และคู่ต่อสู้ของเขา ในเกมนั้นนั่นก็คือ ” สตีฟ เดวิส ” นักสนุกเกอร์อาชีพอีกคนหนึ่ง ที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาพีค ในเรื่องฟอร์มการเล่นสูงสุดเช่นเดียวกัน ที่สำคัญเขาก็ยังมีดีกรี ในตำแหน่งแชมป์โลกถึง 2 สมัยติดตัวอยู่แล้ว

และผลสรุปในศึก การแข่งขันครั้งนั้น ก็เป็นไปตามที่ เหล่าบรรดาเซียนสนุกเกอร์ คาดการณ์กันเอาไว้ที่ จิมมี่ ไวต์ ต้องพ่ายให้กับ สตีฟ เดวิส ไปด้วยคะแนนสูงสุดแบบ Maximum break คือ 18 – 16 เฟรม และผลของศึก การแข่งขันในครั้งนั้น ก็ได้ส่งผลให้ สตีฟ เดวิด สามารถคว้าตำแหน่ง แชมป์โลกสมัยที่ 3 ไปครองได้เป็นผลสำเร็จ ถือเป็นข่าวใหญ่ที่ได้รับ การตีพิมพ์กระจายไปทั่วในปีนั้น และมันก็เป็นตำแหน่งรองแชมป์ ครั้งแรกในชีวิตของ จิมมี่ ไวต์

แต่ความผิดหวัง ในรอบชิงชนะเลิศ แชมป์โลกในครั้งนั้น ก็ได้กลายเป็นแรงผลักดัน ให้ตัวของเขาเกิดความมุมานะพยายาม เพิ่มมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เขาสามารถ สร้างสถิติอันยอดเยี่ยม ในหลายรายการ สามารถรั้งตำแหน่ง นักสนุกเกอร์อาชีพ ระดับแถวหน้าของโลก ต่อมาเรื่อยๆ

แต่ความพยายาม และผลงานอันยอดเยี่ยม ที่เขาสร้างขึ้นมา มันก็ยังดูจะไม่เพียงพอสำหรับ การผ่านเข้าไปสู่ในรอบชิงชนะเลิศ เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน แต่ในขณะเดียวกัน กลุ่มแฟนคลับของเขา ก็กลับเพิ่มมากขึ้น อย่างไม่น่าเชื่อ กลายเป็นนักสนุกเกอร์ ยอดนิยมในใจแฟนๆ อีกคนหนึ่งไปได้อย่างง่ายดาย

เมื่อคลื่นลูกเก่าถูกพัดไป คลื่นลูกใหม่ก็กำลังจะถาโถมเข้ามาสร้าง แต้ม สูงสุด สนุกเกอร์ตามกฎของธรรมชาติ

เมื่อวันเวลาได้เปลี่ยนผ่าน เข้ามาถึงยุคต้นปี 90 ฉายาเทพบุตรคิวทอง ผู้ที่เป็นมือวางอันดับที่ 1 ของโลก อย่าง สตีฟ เดวิส ก็เริ่มที่จะมีฟอร์ม การเล่นที่แผ่วลงทุกอย่าง และมันก็ไม่เหมือนเดิม อีกต่อไปแล้ว และตัวของเขาในฐานะของ มือวางอันดับที่ 2 ของโลก ก็ได้รับการจับตามอง จากเหล่าบรรดาสื่อมวลชน และแฟนสนุกเกอร์ทั่วโลก

และได้มีการลงความเห็นกันว่า มันถึงเวลาของ การเปลี่ยนผ่านตำแหน่งราชัน ที่อยู่บนบัลลังก์แล้ว มันถึงเวลาที่ตัวของเขา จะต้องลุกขึ้นมา เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ให้กับวงการสนุกเกอร์อาชีพ ด้วยการคว้าถ้วยรางวัล ในตำแหน่งแชมป์โลก มาครองให้สมใจเสียที และในช่วงเวลานั้น ก็ยังไม่มีใคร ที่มีฟอร์มการเล่นดีพอ ที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้

แต่แล้วหากเหนือฟ้า ก็ย่อมจะต้องมีฟ้า ในปีนั้นถือเป็นช่วงเวลาของ การถือกำเนิดคู่ปรับคนใหม่นั่นก็คือ สตีเฟ่น เฮนดรี้ โดยในศึกการแข่งขันชิงแชมป์โลกเป็นครั้งที่ 2 ของเขา ในปี 1990 มันเป็นช่วงเวลา ที่เขาจะต้องเผชิญหน้ากับ นักสนุกเกอร์หนุ่มผมสีทอง ที่ผู้เชี่ยวชาญ ในวงการกีฬาสนุกเกอร์ ต่างลงความเห็นว่า เขาจะเป็นเลือดใหม่ ของวงการแน่นอน

Maximum break คือ

และสิ่งที่คาดไม่ถึงก็ได้เกิดขึ้นมาจริงๆ นักสนุกเกอร์หนุ่ม วัยรุ่นหน้าใหม่คนนี้ ได้ทำการหักปากกาเซียนอย่างสิ้นเชิง ด้วยการเอาชนะ ไปได้ด้วยสกอร์ 18 – 12 ทั้งที่ในช่วงแรก เขาเป็นฝ่ายที่ถูกต้อน จนแทบจะจนมุมอยู่แล้ว แต่กลับมาพลิกชนะ ได้อย่างเหลือเชื่อ เป็นการสร้างสถิติ นักสนุกเกอร์แชมป์โลก ที่มีอายุน้อยที่สุด ในช่วงต้นยุคปี 90

แล้วมันก็เป็นความผิดหวังครั้งที่ 2 ของ จิมมี่ ไวต์ แต่ในปีถัดมาเขาก็ได้ทะลุผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแชมป์โลกอีกครั้งในปี 1991 แต่คู่ต่อสู้ของเขา ได้เปลี่ยนไปไม่ใช่คนเดิม จอห์น แพรอต ดูเหมือนจะเป็นนักสนุกเกอร์ที่ไวต์ จะสามารถคว่ำลงได้ง่าย โดยไม่ต้องเหน็ดเหนื่อย เหมือนกับในครั้งก่อนมากนัก แต่สถานการณ์ ก็ได้กลับกลายเป็นตลกร้าย ที่เขาไม่ปรารถนา

โดยเขาได้พ่าย ในศึกการแข่งขันครั้งนั้น ไปด้วยสกอร์ 18 – 11 แล้วมันก็เป็นตำแหน่ง รองแชมป์โลกครั้งที่ 3 ในชีวิตของเขา คุณสมบัติของ การเป็นนักสนุกเกอร์ ที่ดีในตัวเขา ก็มีมากพอ ที่จะไม่ทำให้เขา ต้องรู้สึกท้อใจ เพราะเขายังคงรักษา ฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยม และสามารถทะลุผ่าน เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ในปีต่อมาได้อีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่า ตำแหน่งแชมป์โลก จะยังคงเป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่เขาก็ยังไม่สามารถ กำจัดมันได้

โดยหลังจากปี 1994 ก็เป็นช่วงเวลาที่เขา มีอายุที่มากขึ้น และมันก็ส่งผลให้ฟอร์ม การเล่นของเขาตกต่ำลง เขาจึงตัดสินใจวางมือ จากการเป็นนักสนุกเกอร์อาชีพ ไปตลอดกาล แต่ในส่วนของผลงาน และชื่อเสียงอันเป็นตำนานของเขา จะยังคงอยู่ในใจของ แฟนสนุกเกอร์ตลอดไป

และสำหรับท่าน ที่มีความสนใจในเรื่องของ การเดินทางออกไปท่องเที่ยว ในประเทศอินเดีย คุณสามารถที่จะค้นหาข้อมูล เกี่ยวกับการเดินทาง และสถานท่องเที่ยว ที่น่าสนใจได้ที่ ไปเมืองเก่าในอินเดีย

ส่วนท่านที่มีทักษะความรู้ความสามารถ ในเรื่องของการทำอาหาร และมีความสนใจ ที่จะศึกษาเรื่องราวเหล่านี้ เพิ่มเติมด้วยตัวเอง คุณสามารถพบกับ เมนูอาหารไทยที่หลากหลาย มากมายหลายเมนูที่ เมนูไทยๆทำตามง่าย

Artist Em